กลับไปหน้าหลัก

Movie Review : Avatar อวตาร

วันอาทิตย์ที่ 26 มิถุนายน พ.ศ. 2554

เรื่องย่อ

             เจก ซัลลี (แซม เวิร์ตธิงตัน) เป็นอดีตนายทหารเรือผู้พิการที่ต้องนั่งบนรถเข็น แม้ว่าร่างกายไม่สมประกอบ แต่เจกก็ยังมีหัวใจนักรบ เขาได้รับเลือกให้ร่วมเดินทางหลายปีแสงไปยังดาวแพนโดรา ที่ซึ่งมีเหมืองแร่ล้ำค่าหายากที่เป็นหัวใจสำคัญในการแก้ปัญหาพลังงานขาดแคลนของโลก
            เนื่องจากชั้นบรรยากาศของดาวแพนโดราเป็นพิษต่อมนุษย์ พวกเขาจึงต้องพัฒนาโปรแกรมอวตาร เพื่อแปลงสภาวะจิตของคนให้ไปอยู่ในร่างอวตาร และให้ควบคุมร่างกายได้ในภาวะอากาศที่เบาบาง ร่างอวตารนี้เป็นส่วนผสมทางพันธุกรรมของดีเอ็นเอมนุษย์และดีเอ็นเอจากสิ่งมีชีวิตบนดาวแพนโดรา ที่มีชื่อเรียกว่า นาวี  ในร่างอวตาร เจกสามารถเดินได้อีกครั้งหนึ่ง และมีภารกิจต้องแทรกซึมเข้าไปในกลุ่มนาวี ชนเผ่าพื้นเมืองที่เป็นอุปสรรคสำคัญของชาวโลกในการเข้าถึงเหมืองแร่ล้ำค่า แต่นาวีสาวสวยชื่อ นาวิตี (โซ ซาลดานา) ได้ช่วยชีวิตเจกไว้ แล้วแผนการทุกอย่างก็เปลี่ยนแปลง เจกเข้าร่วมกับชนเผ่าของเธอ เขาได้ผ่านการทดสอบและการผจญภัยต่างๆ จนได้เป็นหนึ่งในกลุ่มนั้น ความสัมพันธ์ของเจกและนาวิตีเริ่มลึกซึ้งขึ้น พร้อมๆ กับความนับถือในกลุ่มนาวี ในที่สุดเจกต้องเผชิญหน้ากับการทดสอบและความขัดแย้งที่จะตัดสินชะตากรรมของโลก




ข้อดี
                 มีการใช้เทคโนโลยีใหม่ล่าสุดซึ่งใช้ถ่ายทำหนัง ที่มีชื่อเรียกว่า Performance Capture  โดยเทคโนโลยีที่ว่านี้ ไม่เพียงจะจับภาพการเคลื่อนไหวของนักแสดงได้เท่านั้น แต่ยังสามารถจับการแสดงออกทางสีหน้า ดวงตา และอารมณ์อื่นๆ ที่สื่อออกมาทางใบหน้าได้เป็นอย่างดีอีกด้วย ซึ่งนวัตกรรมนี้นี่แหละ ที่ทำให้แวดวงภาพยนตร์ 3 มิติของโลก กำลังก้าวไปสู่วิวัฒนาการใหม่ๆ ให้ผู้ชมได้รับความสุดยอดของหนังแห่งปี ที่มีความตื่นเต้นได้ทุกเวลา

ข้อเสีย
                 ในหนังเรื่องนี้ดูแล้วเหมือนจะเกินจริงไปหน่อย ทั้งการข้ามไปยังโลกอื่นโดยใช้เครื่องมือทางวิทยาศาสตร์ที่คิดค้นขึ้นมา และอีกด้านด้วยความที่เนื้อหา ไม่ใช่ประเด็นใหม่ หนำซ้ำยังไปคล้ายกับหนังบางเรื่องด้วย จึงเป็นเหตุผลที่ทำให้ใครหลายคนมองว่า บทของเรื่องเป็นจุดอ่อนของหนังเรื่องนี้ แต่ที่จริงแล้วก็เป็นที่ดึงดูดให้คนยิ่ีงสนใจสิ่งที่กำลังดำเนินไปในหนัง ดูภาพรวมแล้วหนังเรื่องนี้แทบจะไม่มีข้อเสียเลย

ข้อเสนอแนะ
             หากเรามองในมุมกลับ จริงอยู่ที่ประเด็นซึ่งหนังนำเสนอนั้น อาจจะไม่ใช่ประเด็นใหม่ แต่มันก็เป็นประเด็นที่มีความร่วมสมัย มีความเป็นสากล และเข้าถึงคนดูทุกกลุ่มได้ไม่ยาก  ไม่ว่าใครที่ได้ดูก็สามารถอินไปกับเรื่องราวในหนังได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การที่หนังพยายามสื่ออย่างตรงไปตรงมาว่า มนุษย์นี่แหละที่เป็น ตัวประหลาด และเป็น ผู้ทำลาย ตัวจริง (ในหนังชาวเนวีจะเรียกมนุษย์ว่า คนจากฟ้า ) รวมไปถึงการที่หนังเล่าเรื่องของมนุษย์ซึ่งเข้าไปรุกรานดาวแพนดอร่าเพื่อหวังตักตวงแร่อันมีค่าของที่นั่น  นอกจากนี้ การรุกรานชาวเนวีของมนุษย์โลกยังสามารถตีความไปได้อีกหลายแนวทาง เช่น ประเด็นเกี่ยวกับการทำลายทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม หรือการคืบคลานเข้ามาทำลายวิถีชีวิตและวัฒนธรรมดั้งเดิม (ชาวเนวี) โดยความเจริญทางด้านวัตถุและเทคโนโลยีสมัยใหม่


2 ความคิดเห็น:

อิสรภาพแห่งความคิด สิงห์แสด ม.อุบลฯ กล่าวว่า...

ทราบเลย คับ อวตาร ดวงตาสีฟ้า

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

พิมพ์ผิดน่ะ ตรงข้อเสนอแนะ ในบรรทัดที่ 6