พื้นโลกรับความร้อนจากดวงอาทิตย์ได้ไม่เท่ากัน บริเวณเส้นศูนย์สูตรจะรับความร้อนมากกว่าขั้วโลกเหนือและใต้มากมาย น้ำทะเลและอากาศจะเป็นตัวพาความร้อนออกจากเส้นศูนย์สูตรไปยังขั้วโลกทั้งสอง น้ำทะเลที่ผิวมหาสมุทรจะร้อนขึ้นจนระเหยกลายเป็นไอขึ้นไป น้ำอุ่นข้างล่างผิวน้ำและใกล้เคียงจะเข้ามาและกลายเป็นไออีก เป็นเหตุให้มีการไหลทดแทนของน้ำและอากาศจากที่เย็นกว่าไปสู่ที่อุ่นกว่า เกิดเป็นวงจรระบายความร้อนและความชื้นออกไปจากโซนร้อนอย่างต่อเนื่อง ในภาวะปกติ โซนร้อนที่กล่าวถึงนี้คือบริเวณแนวเส้นศูนย์สูตรทางตะวันตกของมหาสมุทรแปซิฟิก ได้แก่บริเวณหมู่เกาะอินโดนีเซียและออสเตรเลีย ลักษณะนี้ทำให้มีลมพัดจากทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคตะวันออกเฉียงใต้ของมหาสมุทรแปซิฟิกมาหาแนวเส้นศูนย์สูตรทางแปซิฟิกตะวันตก คนเดินเรือใบในอดีตรู้จักลมนี้ดี โดยเฉพาะชาวจีน เพราะได้อาศัยลมนี้ในการเดินทางมาค้าขายหรือหอบเสื่อผืนหมอนใบมายังเอเชียใต้ ลมนี้คือ ลมสินค้า นั่นเอง ลมสินค้าได้พัดน้ำให้ไหลตามมาด้วย
จากการสำรวจทางดาวเทียมพบว่า น้ำทะเลแถวอินโดนีเซียมีระดับสูงกว่าทางฝั่งเปรูประมาณครึ่งเมตร ซึ่งทางฝั่งเปรูนั้น เมื่อน้ำทะเลชั้นบนที่ร้อนได้ไหลมาทางตะวันตกตามแรงลมแล้ว น้ำทะเลด้านล่างซึ่งเย็นกว่าก็จะลอยขึ้นมาแทนที่ หอบเอาแพลงตอนซึ่งเป็นอาหารปลาลอยขึ้นมาด้วย ทำให้ท้องทะเลย่านนี้มีปลาเล็กปลาใหญ่ชุกชุม (นักดำน้ำส่วนมากรู้จักปรากฏการณ์น้ำเย็นที่อยู่ในที่ลึกๆ แล้วไหลมาแทนน้ำอุ่นๆที่อยู่ที่ผิวน้ำได้ดี ซึ่งเราเรียกปรากฎการณ์นี้ว่า Upwelling ซึ่งถ้ามีปรากฏการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อใดในระหว่างดำน้ำ เราจะเจอน้ำเย็นเฉียบ...ตะกอนลอยฟุ้งไปทั่ว...กระแสน้ำที่ผิวน้ำจะแรงมาก เมฆมากฝนตกชุก อากาศบริเวณนี้จึงร้อนชื้น ที่บอกว่าน้ำทะเลร้อนและเย็นนั้น
ตามปรกติก็จะร้อนและเย็นประมาณ 30 22 องศาเซลเซียส ตามลำดับ เมื่อเกิดเอลนิโน ลมจะมีกำลังอ่อนลงทำให้ไม่สามารถพยุงน้ำทะเลทางแปซิฟิกตะวันตกให้อยู่ในระดับสูงอย่างเดิมได้ น้ำอุ่นจึงไหลย้อนมาทางตะวันออก แอ่งน้ำอุ่นซึ่งเปรียบได้กับน้ำร้อนในกระทะใบใหญ่ซึ่งเคยอยู่ชิดขอบตะวันตกของมหาสมุทรแปซิฟิกจึงเคลื่อนไปทางทิศตะวันออก การลอยตัวของน้ำเย็นจากก้นทะเลจึงมีน้อย มีผลทำให้น้ำด้านแปซิฟิกตะวันออกอุ่นขึ้น
ทีนี้ก็เกิดวงจรแบบงูกินหางขึ้น คือ น้ำทะเลยิ่งร้อน ลมสินค้าก็ยิ่งอ่อน… ลมสินค้ายิ่งอ่อนน้ำทะเลก็ยิ่งร้อน …นี่เป็นปัจจัยให้แต่ละครั้งที่เกิดเอลนิโญ แอ่งนำอุ่นจะขยายใหญ่ขึ้นและใหญ่ขึ้นทุกครั้งไป
ผลของปรากฏการณ์เอลนิโญ
ความจริงเอลนิโญไม่ได้ทำให้อากาศร้อนอย่างเดียว ยังทำให้บางพื้นที่ในประเทศทางซีกโลกเหนือมีความหนาวเย็นและมีหิมะตกหนักกว่าปรกติด้วย เช่นที่ประเทศเกาหลีเหนือนอกจากภัยที่กล่าวมาแล้วยังมีภัยทางอ้อมต่าง ๆ อีก ซึ่งเป็นผลมาจากน้ำและอากาศมีอุณหภูมิเพิ่มขึ้น หรือไม่ก็เพราะแล้งไปหรือชื้นไป พอจะรวบรวมได้ดังนี้
2. ปะการังและสัตว์ทะเลที่มีสาหร่ายเซลเดียว (Zooxanthellae) อาศัยอยู่ในเนื้อเยื่อ และมีส่วนอย่างสำคัญทำให้เหล่านี้มีสีสันที่สวยงาม ต่างพากันเกิดอาการฟอกขาว เพราะตัวสาหร่ายทนความร้อนไม่ได้ต้องตายหรือหนีหายไป
ข้อดี
หนังสือเรื่องปรากฏการณ์เอลนิโยนี้เป็นหนังสือที่อ่านแล้วเข้าใจอ่านสำหรับผู้ที่ชื่นชอบการอ่านหนังสือแบบวิทยาศาสตร์และเนื้อหาในหนังสือเกี่ยวกับปรากฏการณ์เอลนิโญซึ่งเป็นสิ่งที่มันเกิดขึ้นอยู่ในปัจจุบันทำให้เข้าใจมากยิ่งขึ้นและไม่เป็นวิชาการมากจนเกินไปและสามารถอ่านได้ทุกเพศทุกวัย
ข้อเสีย
หนังสือมีเนื้อหาเยอะจนเกินไปทำให้น่าเบื่อและเกิดอาการไม่อยากอ่านต่อและตัวหนังสือค่อนข้างเล็กทำให้ตาลายในขณะที่อ่านและมีรูปร่างหนังสือไม่ค่อยสวยไม่น่าสนใจไม่ดึงดูดผู้อ่านเท่าไรหนัก
ข้อเสนอแนะ
ควรจัดทำหนังสือที่มีเนื้อหาไม่เยอะมากสลับกับรูปภาพพอทำอธิบายให้เด็กเข้าใจได้ง่ายสนใจอ่านมากกว่านี้
อ้างอิง//: จากหนังสือ ชุดสิ่งแวดล้อมของ unep / gems
เล่มที่ 8 ปรากฏกราณ์เอลนิโญ
โครงการสิ่งแวดล้อมแห่งสหประชาชาติ ไนโรบี และ แหล่งที่มา
2 ความคิดเห็น:
ถ้าคนเรารู้ว่ามันเป็นเรื่องใกล้ตัวแล้วช่วยกันดูแลโลกคงดี
เพียงคุณทิ้งขยะ โลกเราก็ร้อนแล้วคับ ช่วยกันลดใช้พลาสติก มาใช้สิ่งของจากธรรมชาติแทน เช่น ใบตอง เป็นต้น ครับ
แสดงความคิดเห็น