กลับไปหน้าหลัก

Book Review : ปรากฏการณ์เอลนิโญ

วันจันทร์ที่ 11 กรกฎาคม พ.ศ. 2554




ปรากฏการณ์เอลนิโญ เกิดขึ้นได้อย่างไร
          พื้นโลกรับความร้อนจากดวงอาทิตย์ได้ไม่เท่ากัน บริเวณเส้นศูนย์สูตรจะรับความร้อนมากกว่าขั้วโลกเหนือและใต้มากมาย น้ำทะเลและอากาศจะเป็นตัวพาความร้อนออกจากเส้นศูนย์สูตรไปยังขั้วโลกทั้งสอง น้ำทะเลที่ผิวมหาสมุทรจะร้อนขึ้นจนระเหยกลายเป็นไอขึ้นไป น้ำอุ่นข้างล่างผิวน้ำและใกล้เคียงจะเข้ามาและกลายเป็นไออีก เป็นเหตุให้มีการไหลทดแทนของน้ำและอากาศจากที่เย็นกว่าไปสู่ที่อุ่นกว่า เกิดเป็นวงจรระบายความร้อนและความชื้นออกไปจากโซนร้อนอย่างต่อเนื่อง ในภาวะปกติ โซนร้อนที่กล่าวถึงนี้คือบริเวณแนวเส้นศูนย์สูตรทางตะวันตกของมหาสมุทรแปซิฟิก ได้แก่บริเวณหมู่เกาะอินโดนีเซียและออสเตรเลีย ลักษณะนี้ทำให้มีลมพัดจากทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคตะวันออกเฉียงใต้ของมหาสมุทรแปซิฟิกมาหาแนวเส้นศูนย์สูตรทางแปซิฟิกตะวันตก คนเดินเรือใบในอดีตรู้จักลมนี้ดี โดยเฉพาะชาวจีน เพราะได้อาศัยลมนี้ในการเดินทางมาค้าขายหรือหอบเสื่อผืนหมอนใบมายังเอเชียใต้ ลมนี้คือ ลมสินค้า นั่นเอง ลมสินค้าได้พัดน้ำให้ไหลตามมาด้วย
            จากการสำรวจทางดาวเทียมพบว่า น้ำทะเลแถวอินโดนีเซียมีระดับสูงกว่าทางฝั่งเปรูประมาณครึ่งเมตร ซึ่งทางฝั่งเปรูนั้น เมื่อน้ำทะเลชั้นบนที่ร้อนได้ไหลมาทางตะวันตกตามแรงลมแล้ว น้ำทะเลด้านล่างซึ่งเย็นกว่าก็จะลอยขึ้นมาแทนที่ หอบเอาแพลงตอนซึ่งเป็นอาหารปลาลอยขึ้นมาด้วย ทำให้ท้องทะเลย่านนี้มีปลาเล็กปลาใหญ่ชุกชุม (นักดำน้ำส่วนมากรู้จักปรากฏการณ์น้ำเย็นที่อยู่ในที่ลึกๆ แล้วไหลมาแทนน้ำอุ่นๆที่อยู่ที่ผิวน้ำได้ดี ซึ่งเราเรียกปรากฎการณ์นี้ว่า Upwelling ซึ่งถ้ามีปรากฏการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อใดในระหว่างดำน้ำ เราจะเจอน้ำเย็นเฉียบ...ตะกอนลอยฟุ้งไปทั่ว...กระแสน้ำที่ผิวน้ำจะแรงมาก เมฆมากฝนตกชุก อากาศบริเวณนี้จึงร้อนชื้น ที่บอกว่าน้ำทะเลร้อนและเย็นนั้น 
            ตามปรกติก็จะร้อนและเย็นประมาณ 30  22 องศาเซลเซียส ตามลำดับ เมื่อเกิดเอลนิโน ลมจะมีกำลังอ่อนลงทำให้ไม่สามารถพยุงน้ำทะเลทางแปซิฟิกตะวันตกให้อยู่ในระดับสูงอย่างเดิมได้ น้ำอุ่นจึงไหลย้อนมาทางตะวันออก แอ่งน้ำอุ่นซึ่งเปรียบได้กับน้ำร้อนในกระทะใบใหญ่ซึ่งเคยอยู่ชิดขอบตะวันตกของมหาสมุทรแปซิฟิกจึงเคลื่อนไปทางทิศตะวันออก การลอยตัวของน้ำเย็นจากก้นทะเลจึงมีน้อย มีผลทำให้น้ำด้านแปซิฟิกตะวันออกอุ่นขึ้น


ทีนี้ก็เกิดวงจรแบบงูกินหางขึ้น คือ น้ำทะเลยิ่งร้อน ลมสินค้าก็ยิ่งอ่อนลมสินค้ายิ่งอ่อนน้ำทะเลก็ยิ่งร้อนนี่เป็นปัจจัยให้แต่ละครั้งที่เกิดเอลนิโญ แอ่งนำอุ่นจะขยายใหญ่ขึ้นและใหญ่ขึ้นทุกครั้งไป
         
  
ผลของปรากฏการณ์เอลนิโญ
         ความจริงเอลนิโญไม่ได้ทำให้อากาศร้อนอย่างเดียว ยังทำให้บางพื้นที่ในประเทศทางซีกโลกเหนือมีความหนาวเย็นและมีหิมะตกหนักกว่าปรกติด้วย เช่นที่ประเทศเกาหลีเหนือนอกจากภัยที่กล่าวมาแล้วยังมีภัยทางอ้อมต่าง ๆ อีก ซึ่งเป็นผลมาจากน้ำและอากาศมีอุณหภูมิเพิ่มขึ้น หรือไม่ก็เพราะแล้งไปหรือชื้นไป พอจะรวบรวมได้ดังนี้

1. สัตว์ทะเลมีโอกาสสูญพันธุ์สูงมาก เมื่อเกิดภาวะเอลนิโญการไหลของกระแสน้ำอุ่นผิดทิศทางไป ซึ่งกระทบกระเทือนต่อการ ขยายพันธุ์ของปลาและแหล่งอาหารมาก เราคงได้ยินข่าวฝูงปลาวาฬว่ายไปเกยตื้นบ่อยๆ เพราะหลงทิศทางน้ำ


2. ปะการังและสัตว์ทะเลที่มีสาหร่ายเซลเดียว (Zooxanthellae) อาศัยอยู่ในเนื้อเยื่อ และมีส่วนอย่างสำคัญทำให้เหล่านี้มีสีสันที่สวยงาม  ต่างพากันเกิดอาการฟอกขาว เพราะตัวสาหร่ายทนความร้อนไม่ได้ต้องตายหรือหนีหายไป



3. นกต่าง ๆ ที่อาศัยปลาเป็นอาหารก็กำลังมีจำนวนน้อยลง เช่น    นกเพนกวิน

4. สัตว์ป่าต้องพบกับภาวะแห้งแล้งเช่นกัน หาอาหารได้ยากขึ้น และล้มตายมากมายด้วยไฟป่า









ข้อดี
หนังสือเรื่องปรากฏการณ์เอลนิโยนี้เป็นหนังสือที่อ่านแล้วเข้าใจอ่านสำหรับผู้ที่ชื่นชอบการอ่านหนังสือแบบวิทยาศาสตร์และเนื้อหาในหนังสือเกี่ยวกับปรากฏการณ์เอลนิโญซึ่งเป็นสิ่งที่มันเกิดขึ้นอยู่ในปัจจุบันทำให้เข้าใจมากยิ่งขึ้นและไม่เป็นวิชาการมากจนเกินไปและสามารถอ่านได้ทุกเพศทุกวัย

ข้อเสีย
หนังสือมีเนื้อหาเยอะจนเกินไปทำให้น่าเบื่อและเกิดอาการไม่อยากอ่านต่อและตัวหนังสือค่อนข้างเล็กทำให้ตาลายในขณะที่อ่านและมีรูปร่างหนังสือไม่ค่อยสวยไม่น่าสนใจไม่ดึงดูดผู้อ่านเท่าไรหนัก

ข้อเสนอแนะ

ควรจัดทำหนังสือที่มีเนื้อหาไม่เยอะมากสลับกับรูปภาพพอทำอธิบายให้เด็กเข้าใจได้ง่ายสนใจอ่านมากกว่านี้






บทความโดย  นางสาวจิรภาภรณ์ มังสุไร 5223450049
อ้างอิง//: จากหนังสือ ชุดสิ่งแวดล้อมของ unep / gems
เล่มที่ 8 ปรากฏกราณ์เอลนิโญ
โครงการสิ่งแวดล้อมแห่งสหประชาชาติ ไนโรบี และ แหล่งที่มา

2 ความคิดเห็น:

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

ถ้าคนเรารู้ว่ามันเป็นเรื่องใกล้ตัวแล้วช่วยกันดูแลโลกคงดี

อิสรภาพแห่งความคิด สิงห์แสด ม.อุบลฯ กล่าวว่า...

เพียงคุณทิ้งขยะ โลกเราก็ร้อนแล้วคับ ช่วยกันลดใช้พลาสติก มาใช้สิ่งของจากธรรมชาติแทน เช่น ใบตอง เป็นต้น ครับ