กลับไปหน้าหลัก

Book Review : ภัยพิบัติ รู้จริง รู้รอบ ปลอดภัย

วันจันทร์ที่ 11 กรกฎาคม พ.ศ. 2554


"ภัยพิบัติ"
รู้จริง   รู้รอบ   ปลอดภัย
                  นับจากวันนี้มนุษย์จะไม่ได้อาศัยอยู่ในโลกใบที่คุณคุ้นเคยอีกต่อไปเพราะโลกกำลังเกิดเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่  ภัยธรรมชาติจะเกิดบ่อยครั้งและหนักขึ้นอาทิ เช่น สึนามิ  แผ่นดินไหว  ภัยแล้ง  ไฟป่า  พายุถล่ม  ภูเขาไฟระเบิด  น้ำท่วม  จะเกิดบ่อยขึ้น ทุกวันนี้ผู้คนกำลังเผชิญกับภัยร้ายที่เกิดกำลังเกิดขึ้นกับโลกของเรา  จนทำให้สิ่งแวดล้อมเปลี่ยนไปอย่างมากมาย  จะเห็นได้จากภัยพิบัติร้ายแรงจากหลายๆประเทศที่กำลังประสบอยู่ทั้งไฟไหม้ป่า  แผ่นดินไหว  ดินถล่ม  น้ำท่วม  พายุ    รวมไปถึงสภาวะโลกร้อน  ปัญหาที่หลาๆประเทศกำลังถกเถียงกันอยู่ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นใครเป็นผู้ทำลายมากที่สุด  เรื่องเหล่านี้กำลังสะท้อน  ให้เห็นว่า  โลกของเรากำลังถูกทำลายจากสิ่งไหนกันแน่  จากธรรมชาติหรือว่าเกิดจากฝีมือมนุษย์เอง ภัยธรรมชาติที่เกิดขึ้นนั้นมีผลกระทบมากมายและร้ายแรงจนเป็นภัยพิบัติที่สร้างความเดือดร้อนให้กับมนุษย์ทั้งชีวิตและทรัพย์สินและนับวันภัยเหล่านี้ยิ่งทวีความรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆดังนั้นเราจึงควรที่จะต้องเรียนรู้และตระหนักกับเรื่องนี้กันอย่างจิงจังโดย สร้างความจิตสำนึกในการดูแล  รักษาและหวงแหนธรรมชาติ  ให้กับธรรมชาติ  ให้กับลูกหลานนับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป

ภาวะโลกร้อน (Global  Warming) 
           ภาวะโลกร้อน   เป็นสภาวะที่อุณหภูมิโดยเฉลี่ยของโลกสูงขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงศตวรรษที่แล้วโดยมีการตระหนักเรื่องนี้เป็นอย่างแท้จริงเมื่อประมาณช่วงค่อนศตวรรษที่  20  เมื่อพบว่าอุณหภูมิโดยเฉลี่ยของโลกนั้นสูงขึ้นในอัตราที่ทวีคูณขึ้นอย่างรวดเร็วกว่าที่เคยเป็นจนกระทั่งถึงช่วงเริ่มต้นศตวรรษ  21  อุณหภูมิของโลกก็ยิ่งเพิ่มสูงขึ้นอีกการที่อุณหภูมิสูงขึ้นเร็วๆเช่นนี้สันนิษฐานว่าได้ว่าสภาพการณ์ของโลกในอนาคตมีแนวโน้มว่าจะว่าจะยิ่งร้อนขึ้นอีกในอัตราที่เพิ่มขึ้นเรื่อยหากไม่มีใครคิดที่จะลงมือทำอะไรให้เห็นผลสภาพการณ์นี้จึงส่งผลซึ่งเป็นสาเหตุให้ภูมอากาศเปลี่ยนแปลง  ภาวะโลกร้อนอาจจะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงของปริมาณน้ำฝน  ระดับน้ำทะเลและมีผลกระทบต่อสิ่งมีชีวิตทุกอย่างบนโลก
              ภาวะโลกร้อนเกิดจากการที่ปล่อยก๊าซพิษต่างๆ  เช่น  ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์  ก๊าซมีเทน ฯลฯ  จากโรงงาอุตสาหกรรมทั่วโลกทำให้แสงอาทิตย์ส่องทะลุผ่านชั้นบรรยากาศมาสู่โลกได้มากขึ้น  ซึ่งเป็นที่รู้จักกันว่าสภาวะเรือนกระจกตัวการสำคัญในการทำให้เกิดก๊าซเรือนกระจกขึ้นไม่ว่าจะเกิดขึ้นโดยระบบอุตสาหกรรม  เกษตรกรรม  หรือกิจกรรมใดๆของมนุษย์กับธรรมชาติก็ตาม  แต่สาเหตุนั้นก็เกิดขึ้นจากสาเหตุดังต่อไปนี้ 
1.       จากการเผาผลาญพลังงานเชื้อเพลิงฟอสซิล( Fossil  Feuel ) หรือพลังงานที่ได้จากการทับถมของซากพืชซากสัตว์ดึกดำบรรพ์ในรูปแบบของถ่านหินและน้ำมันปิโตเลียม  เช่น  ในกิจการโรงงานต่างๆหรือจากการใช้ยวดยานพาหนะต่างๆที่ต้องใช้เชื้อเพลิงเป็นตัวขับดันให้เครื่องจักรทำงานการเผาผลาญพลังงานเชื้อเพลิงจากฟอสซิลเหล่านี้นี้จะส่งผลทำให้เกิดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ออกมาในปริมาณที่มากที่สุด
2.       จากการทำกสิกรรม  เกษตรกรรมต่างๆและการทำนาข้าวของมนุษย์กิจกรรมปกติของมนุษย์เพื่อการดำรงชีวิตให้อยู่รอดนั้นเช่นนี้ก็อาจจะก่อให้เกิดมลภาวะต่ออากาศ และเพิ่มปริมาณให้กับก๊าซเรือนกระจกในชั้นบรรยากาศเป็นปริมาณที่มากอย่างคาดไม่ถึงเช่นกัน  การเผานาข้าวในการพลิกผืนดินเพื่อการปลูกข้าวแต่ละรอบฤดูการเพาะปลูก  หรือการเพาะปลูกพืชไร่ตามแต่ละฤดูการของมนุษย์  อีกทั้งระบบอุตสาหกรรมการแปรรูปผลิตผลทางการเกษตรต่างๆก็ยังสามารถทำให้เกิดเป็นก๊าซเรือนกระจกในอัตราที่สูงได้เช่นกัน  กลุ่มก๊าซเรือนกระจกที่สำคัญซึ่งเกิดจากจากกระบวนการต่างๆที่นำมากล่าวถึงในที่นี้มี เช่น ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์  ก๊าซมีเทน  และไนตรัสออกไซด์
3.       จากอุปกรณ์และสิ่งอำนวยความสะดวกในการดำรงชีวิตประจำวันของมนุษย์  เช่นเครื่องปรับอากาศ  ตู้เย็น  หรือวัสดุหีบห่อในประเภทโฟม  และจากน้ำยาในอุปกรณ์ดับเพลิง  เป็นต้น  อุปกรณ์เหล่านี้ได้เป็นตัวการสำคัญที่ทำให้เกิดก๊าซคลอโรฟลูโอโรคาร์บอน  หรือมักที่รู้จักกันในชื่อสาร  CFC  นอจากจะเป็นหนึ่งในก๊าซเรือนกระจก  ยังเป้นตัวการในการทำลายโอโซนในชั้นบรรยากาศที่คอยปกป้องโลกจากรังสีอุตราไวโอเล็ตให้หมดไปอีกด้วย
ตัวการที่สำคัญที่กล่าวมาที่เป็นสาเหตุทำให้โลกร้อนอีกอย่างอาจเป็น มนุษย์  ที่เป็นผู้สร้างทุกสิ่งทุกอย่างบนโลกนี้  แต่ในขณะเดียวกันนั้น  การตัดไม้ทำลายป่าเพื่อสร้างสิ่งอำนวยความสะดวกให้แก่มนุษย์  การใช้ทรัพยากรธรรมชาติอย่างฟุ่มเฟือย  การไม่รักษาสิ่งแวดล้อมทำให้กระบวนการในการดึงเอาก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ออกจากระบบบรรยากาศถูกลดทอนประสิทธิภาพ  สิ่งเหล่านี้ก่อให้เกิดผลกระทบที่ตามมาอย่างมหาศาลทั้งในปัจจุบันและในอนาคต
โดยผลกระทบที่เกิดขึ้นจากสภาวะโลกร้อนก็เช่น  น้ำแข็งที่ขั้วโลกเริ่มละลายส่งผลให้ระดับน้ำทะเลเพิ่มมากขึ้น  ซึ่งทำให้เกิดปัญหา  เช่น  น้ำท่วมอย่างรุนแรง  น้ำเค็มทะลักเข้าสู่แหล่งน้ำจืด  พื้นที่บริเวณ  ชายฝั่งถูกกัดเซาะ  เกิดการเปลี่ยนแปลงของระบบนิเวศชายฝั่ง( ป่าชายเลน )
เกิดการเปลี่ยนแปลงทิศทางของกระแสลมและกระแสน้ำเป็นต้น
สภาวะอากาศเกิดการแปรปรวน  เกิดพายุหมุนบ่อยครั้ง  ฝนตกหนัก  น้ำท่วมในหลายพื้นที่  เกิดไฟไหม้ป่า  ทำให้หลายพื้นที่เกิดภาวะแห้งแล้งเพราะต้นไม้ในป่าถูกเผาทำลาย  ก่อให้เกิดโรคระบาดเพราะระบบนิเวศเปลี่ยนแปลงไป  เชื้อโรคเจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว  เนื่องจากสภาพแวดล้อมเหมาะแก่การฟักตัว  และโรคระบาดที่เคยหายไปจะกลับมาแพร่เชื้ออีกครั้ง  เช่น  มาลาเรีย  อหิวาตกโรค  เป็นต้น
การดำเนินชีวิตเมื่ออยู่ในสภาวะโลกร้อน
1.       ไม่ทำลายทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม  เช่น  การตัดไม้ทำลายป่า  การเผาป่า  เป็นต้น
2.       รู้จักใช้ทรัพยากรธรรมชาติให้คุ้มค่าและใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด
3.       เปลี่ยนมาใช้พลังงานทดแทน  เช่น  ไบโอดีเซล
4.       ลดการใช้พลังงานในบ้าน  เช่น  โทรทัศน์  เครื่องปรับอากาศ  คอมพิวเตอร์  เป็นต้น
5.       ขับรถให้น้อยลงเพื่อความประหยัดน้ำมัน  และลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์อีกด้วย
6.       เลือกใช้กระดาษรีไซเคิล
7.       ปลูกต้นไม้อย่างน้อยคนละ 1  ต้น
8.       เลือกซื้อผลิตภัณฑ์ที่ช่วยรักษาสิ่งแวดล้อม  เช่น  ฉลากประหยัดไฟเบอร์  5 
9.       ใช้ถุงผ้าแทนการถุงพลาสติก
10.    ไม่ใช้ปุ๋ยเคมี  ควรใช้ปุ๋ยหมักจากพืชสัตว์
11.    ควรใช้ชีวิตอย่างพอเพียงด้วยการตระหนักถึงการใช้ชีวิตอย่างมีสติ
12.    ปลูกฝังให้คนในครอบครัวรักโลกและสิ่งแวดล้อม  ฯลฯ


ข้อดี  สำหรับข้อดีของหนังสือภัยภิบัติ รู้จริง รู้รอบ ปลอดภัย หลังจากที่ได้อ่านทำให้ได้รู้ว่าเพราะตัวของมนุษย์เองนั้นทำให้โลกเรานั้นร้อนขึ้นเพราะการใช้ทรัพยากรที่ฟุ่มเฟือยไม่รู้จักประหยัดเเละไม่รู้จักทดธรรมชาติหลังจากที่นำทรัพยากรเหล่านั้นมาใช้เเล้วเเละยังทำให้รู้ว่าหากเราร่วมกันปลูกต้นไม้เพื่อทดแทนธรรมชาติเเล้วจะธรรมให้โลกของเรานั้นเย็นขึ้นกว่าเดิมเเละยังช่วยลดก๊าซที่ส่งผลเสียต่อโลกของเราอีกด้วยดังนั้นเพื่อความสดใสเเละความน่าอยู่ของโลกใบนี้เล้วเราจึงต้องช่วยกันลดโลกร้อนนะครับ

ข้อเสีย   สำหรับข้อเสียของหนังสือเล่มนี้คือยังมีเนื้อหาความเป็นปัจจุบันไม่เพียงพอ
  
ข้อเสนอแนะ  น่าจะปรับเพิ่มให้หนังสือมีความเป็นปัจจุบันมากขึ้นเเละเพิ่มความน่าสนใจให้กับหนังสือให้มากกว่านี้ด้วยทั้งในเรื่องของสีสันของหนังสือเเละความน่าสนใจของเนื้อหาด้วยเพื่อที่จะให้คนที่อ่านไม่เบื่อง่าย








บทความโดย  นายมนูญ เเสวงวงค์ 5223411462
             อ้างอิงจากหนังสือเรื่อง ภัยพิบัติ รู้จริง รู้รอบ  ปลอดภัย

4 ความคิดเห็น:

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

ปรากฏการณ์โลกร้อน (อังกฤษ: global warming) คือปรากฏการณ์ที่อุณหภูมิเฉลี่ยของผิวโลกและผืนมหาสมุทรสูงขึ้น โดยมีก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ และก๊าซเรือนกระจกอื่นๆ เป็นตัวการกักเก็บความร้อนจากแสงอาทิตย์ไว้ไม่ให้คายออกไปสู่บรรยากาศสาเหตุมหันตภัยร้ายที่กำลังคุกคามโลกอยู่ขณะนี้ คือก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์และก๊าซเรือนกระจกอื่นๆ ปริมาณมหาศาลที่มนุษย์เป็นผู้ก่อ ทุกสิ่งทุกอย่างเกิดจากฝีมือมนุษย์ทั้งนั้น
พวกเราต้องช่วยกันนะค่ะเพื่อลูกหลานของเราในอนาคต

JaoPraYa กล่าวว่า...

ภัยธรรมชาติเป็นอะไรที่น่ากลัวมาก ไม่มีใครรู้ว่าจะเกิดขึ้นตอนไหน

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

โลกร้อนไม่ใช่เรื่องไกลตัว ถ้าเราไม่เริ่มตอนนี้ก็ไม่รู้ว่าโลกจะอยู่ได้อีกนานเท่าไหร่

อิสรภาพแห่งความคิด สิงห์แสด ม.อุบลฯ กล่าวว่า...

ทุกวันนี้ คุณทำอะไรให้โลกร้อนบ้าง...มาช่วยกันลดภาวะโลกร้อนกันดีกว่า